Wednesday, September 30, 2009

ออกเดินทาง-ต่อ

เส้นทาง-ในชีวิต มีให้วิ่ง ให้เดิน--หลากหลาย เลือกซะ เลือกทางเดิน แล้วเริ่มเดินทางต่อ
เลือกแล้ว ทำใจให้สบาย เพราะไม่ว่าทางไหน ถ้าตัน ก็เลือกทางใหม่ได้อีก
นี่คือความหัศจรรย์ของการเดินทาง-ในชีวิต
เดินมาก เหนื่อยหนัก ลำบากใจ เปลี่ยนพัก หันหามุมใหม่ๆ ให้ความคิดโล่งโปร่ง
สร้างสรรค์ ให้พลังใจถ่ายเท ให้พลังงานย้ายถ่ายให้ถูกที่
ทางที่เลือกคือกรอบให้เดิน ให้ประสบการณ์ กุมหัวใจให้เปิดกว้างๆ
ให้ความไม่รู้ ไม่คุ้นชิน ไม่เคย เป็นของขวัญ เป็นตั๋ว-ตีตราไปสู่ความตื่นใจ ที่ชีวิตจะได้ค้นพบเส้นทางใหม่ๆ
ไม่ว่าจะเลือกทางไหน ขอให้เดินต่อไปให้ดี จบเส้นทางนี้ยังมีเส้นทางใหม่ ให้ก้าวต่อไป

Tuesday, September 29, 2009

ทีละนิด

ทีละนิด คือ ความคิด แขน ขา ของความฝัน ทำทีละนิด จากหนึ่ง เพิ่มเป็นสอง
ทีละนิด ให้ มิติ ชีวิต ที่ราบลื่น สมดุล สอนให้เข้าใจภาพใหญ่ ภาพรวม เริ่มจากการทำทีละนิด
ทีละนิด เปิดความอดทนเต็มประตู หนึ่งวัน มีพลังเท่าใด ก็ให้ทำแค่นั้น ทีละนิด ก็พอ
ทีละนิด จากหนึ่งปี แปรผันเป็นปีที่ห้า อยู่อเมริกา ทีละนิด วันละนิด
ทีละนิด คือผู้กำกับ ที่อยู่เบื้องหลัง ความฝันอันเบ่งบาน สบายหัวใจ อิ่มใจ ถ้าได้ทำตามฝันทีละนิด

Monday, September 28, 2009

พลังเย็นๆ

วันนี้ อยากเขียนเรื่องพลังใจ รู้สึกได้เหมือนไฟเย็นๆ วูบวาบผ่านมา แววแวบแปลบปลาบ จับ เห็น รู้สึกได้ หัวใจเต้นแรง ส่งข่าวไปบอกทางเมืองไทยว่าวางแผนจะกลับบ้าน น้องตอบมาว่า ยินดี ยินดี เร็วรี่กลับมาสิ ยินดีต้อนรับ กลับบ้าน ได้ยินแค่นี้กลับดีใจเนื้อเต้น เหมือนได้พลังไฟเย็นๆ มาชุ่มโชลมหัวใจ
คิดไปคิดมา---
อยู่ที่ไหนก็ดีได้ ประสบการณ์ในชีวิตต่างถิ่นสอนให้เคารพความแตกต่าง ให้ตั้งคำถาม ให้หยุดด่วนตัดสินสิ่งที่เห็นจากเปลือกนอก สอนให้เข้าใจความอ่อนแอของร่างกาย และ หัวใจ สอนให้พยายาม และ อดทน
อยู่ที่ไหนก็ทำประโยชน์ให้กับตน โลก และสังคมได้ ถ้าตั้งใจทำ แม้งานน้อยนิด กลับมีค่ามหาศาลถ้าใส่ใจ-จริงๆ
แต่ คิดไปคิดมา
อยู่ที่ไหนก็ไม่สบายเหมือนอยู่บ้านเกิด ใกล้ครอบครัว เพื่อน สังคม วัฒนธรรม ห่างบ้านไปไกล ความอุ่นใจมีมากขึ้น เมื่อรู้ว่าอีกไม่กี่เดือนจะได้กลับบ้าน ซะที
อุ่นใจเหมือนได้พลังไฟเย็นๆ มาลุ้นกระตุ้นให้ทำชีวิตในปัจจุบันให้ดี
คิดไปคิดมา กลับบ้านเราก็เข้าท่าดี


Saturday, September 26, 2009

ฤดูแห่งชีวิต

ฤดูกาลในชีวิตคือตัวอย่างง่ายๆของความเปลี่ยนแปลง-ที่เกิดขึ้นทุกขณะ
อยากเห็นฟ้า สว่าง จ้า ใส ทุกวัน ทุกวาระ อยากเห็นความงามของดอกไม้ บานเบ่งประดับพื้นดิน ทุกวัน
อยากให้ทุกสิ่งเป็นดังหวัง-ตลอด- อาจจะยากอยู่สักหน่อย เพราะความสว่าง สดใสในโลก หมุนตัว เต้นรำรอบๆความมืด พลิกไปพลิกมา บางครา ด้านมืดซ่อนตัวเห็นความสว่างชัดจ้า ชัดเจน
ชีวิตมีจังหวะ เดินไปบนเส้นทางแห่งการเปลี่ยนแปลง--ทุกขณะ หัวใจเดินหน้า แต่คุณค่าของชีวิตตระหนัก แน่นแน่เมื่อมีโอกาสมองย้อนกลับ สำรวจรอยเท้า ปลดลงตรงธุลีดิน ปลงลง เห็นความแปลี่ยนแปลง
การเดินทางกลับบ้านของฤดูร้อน ส่งมือต้อนรับเพื่อนเก่า ---ฤดูใบไม้ร่วง
เมื่อถึงเวลาอันเหมาะสม--ตามจังหวะ--ด้านไหนถูกผลักให้ออกนอกหน้า เราจะเห็นด้านนั้น ชัดขึ้น หรือ เมื่อใจเราพร้อมน้อมรับ ไม่ว่าด้านสว่าง หรือ ด้านมนหม่นมืดของชีวิต เรียงหน้าเข้ามาแตะตัว แตะใจ เราจะโอบรับความแตกต่าง-ความเปลี่ยนแปลง ได้อย่างสงบ ไม่ทุรนทุราย
ฤดูใบไม้ร่วงกล่าวคำอำลาฤดูร้อน เราจะพบกันใหม่ เมื่อโลกให้โอกาส เมื่อถึงเวลา
เราเดินเข้าไปในโลกของความเปลี่ยนแปลง-อีกครั้ง ดูเหมือนความเปลี่ยนแปลงคือลิขิตที่จับชีพจรให้เต้นระบำ อย่างสนุกสนาน ในทุกฤดูกาล---แห่งชีวิต

Monday, September 21, 2009

หัวใจอุดมสุข

หัวใจดึงจับกายให้อ่อนอุ่นหรืออึดอัง ขึ้นอยู่กับการผ่อนคลาย ขึ้นอยู่กับการพยายามทำความเข้าใจการเปลี่ยนถ่ายของพลังชีวิต ขึ้นอยู่ที่ปลายจมูก--หันหาลมหายใจ ยุบเข้า ออกพอง
หัวใจอันอุดมสุขคือภาพของชีวิตที่อยู่นิ่งด้วยความสง่างาม ชีวิตที่รับ ผ่อน โอนถ่ายความตั้งใจ
ชีวิตที่สามารถเปิดรับความสับสน กังวล ขุ่นใจ จับปรับภาพมัวหมองให้ใส เยี่ยม เปี่ยมพลังอีกครั้ง
หัวใจอันอุดมสุขเปลี่ยนมุมมอง ปรับความตั้งใจของชีวิต ให้นึก คิดดีงาม

Saturday, September 19, 2009

จับเสียง ได้ใจ

จับเสียงที่เงียบที่สุด เสียงที่หัวใจได้ยิน เสียงนั้นคือความอ่อนหวาน ความเคลื่อนไหวของดวงใจ ความเคลื่อนไหวของจิตวิญญาณ
นั่งนิ่งๆ คิดให้สงบ คิดให้งาม เส้นเสียงที่ชัดที่สุด ไม่ใช่เสียงที่ได้ยินจากภายนอก ไม่ใช่การกระทบกันของความแตกต่าง
ไม่ใช่เสียงที่หูได้ยิน แต่เป็นเสียงที่ใจสัมผัสถึง เป็นเสียงของความสมดุล
เสียงนั้นคือเสียงเงียบๆของหัวใจ-- เสียงของความฝัน
ตื่นใจ เปิดวิญญาณ เอื้อมมือไปจับความฝัน ได้กลิ่นความอ่อนหวานแห่งฝันสัมผัสพลังแห่งหัวใจ
เสียงนั้นเกิดจากการประสาน- กลืนกลมของความคิดที่โน้มนำความรู้สึก
เสียงที่ชัดเจนที่สุดเดินทางมาหาเราอย่างเงียบๆ มากระตุกประสาทสัมผัสให้ทำงานให้หนักขึ้น
เสียง ฝัน พลังแห่งหัวใจ วิญญาณของความสงบ สมดุล
รวมเรียงมาเป็นจังหวะ เป็นภาพลวงตา เป็นเสียงที่กายจับได้ ให้ใจจองจำ งดงาม
สัมผัส สัมพันธ์ ทำให้ลึกล้ำ ให้กลมกลืนกันให้เป็นพลังแห่งความสุข ที่ใจจับได้

Monday, September 7, 2009

หนักแน่น

ทำใจให้หนักแน่นเหมือนแผ่นดิน ให้สายน้ำลำธารไหลริน ซอกเซาะ ร่องหิน ให้แผ่นดินเป็นบ้าน เป็นวิญญาณ
ทำให้ลึก ให้มีคุณค่า มีวลาใช้ให้งาม อยู่บนแผ่นดินให้เกิดประโยชน์ อย่าแค่อยู่บนโลกให้นาน แต่ควรอยู่อย่างหนักแน่น
อยู่บนโลก ให้เห็นความลึก ให้สัมผัสทุกอารมณ์ที่ชีวิตเอื้อให้ ให้ประสบการณ์เป็นหน้าต่างบานใหม่ของความคิด ให้มิตรภาพสร้างแรงบันดาลใจ
อยู่บนโลก ให้เห็นความสัมพันธ์ เกื้อกูล เกี่ยวข้อง คน สัตว์ ดิน น้ำ ลม ฟ้า ไฟ ทุกอณูได้อาศัย ได้ต่อแขน ขา ปัญญา และ หัวใจ
อย่าแค่อยู่บนโลกให้นาน แต่ ควรอยู่ให้ลึก สงบ หนักแน่น เหมือนแผ่นดิน
ไม่ว่าจะอยู่บนแผ่นดินไหน ทำใจให้นุ่มนวล หนักแน่น แล้วชีวิตจะงดงาม

Friday, September 4, 2009

ผ้าทอ

เห็นคนทอผ้า ดึงเส้นใยธรรมชาติ มามัดมารวม หยิบจับ สานเส้นสลับไปมา ดูน่าทึ่ง ถึงใจ
ไม่ว่ากี่ยุค กี่สมัย งานที่ทำด้วยมือ เหมือนเป็นงานชิ้นเอกของหัวใจ
ผู้หญิงไทย หรือ ผู้หญิงเปรู ผู้ที่นั่งอดทน ทอผ้า เป็นผู้ที่น่ายกย่อง กว่าเส้นใยเล็กๆบางจะรวมกันเป็นผืนใหญ่ เห็นคล้ายภาพชีวิตที่ต้องผ่านความอดทน
อดทนอีกนิด ชีวิตจะเต็มขึ้น ทอถักผืนผ้าจากริมเล็กๆกลายเป็นผลงานชิ้นใหญ่ ผลงานของชีวิต ในชีวิตเพื่อชีวิต
ผ้ามีหลายสี สลับกัน เหมือนชีวิตมีหลายอารมณ์ หลายประสบการณ์ หมุนผลัดกันมา
ทุกสีสวยที่สุดเมื่อมาอยู่รวมกัน
เรานั่งมองเส้นด้ายเหมือนเห็นชีวิตที่ผ่านมา ผ่านไปในแต่ละวัน
ทุกวันรวมกันเป็นชีวิตที่ดี

ข้างหลัง

เช้าวันสุดท้ายที่เปรู มีเรื่องสนุกๆ ที่เกิดขึ้น--ข้างหลัง
เราวิ่งตามผู้หญิงพื้นเมืองเพราะแอบติดใจ-ข้างหลัง
กึ่งเดินกึ่งวิ่งตามหลังผู้หญิงชาวพื้นเมืองสี่คน ที่แต่งตัวด้วยชุดผ้าฝ้ายถักทอ ถักจากใจ สีสรรสุดสวย เหมือนวิ่งตามของเล่นที่กำลังจะหลุดมือไป วิ่งไปยิ้มไป
วิ่งตามหลัง เห็นข้างหลังน่าสนใจ เพราะเราไม่กล้าเดินไปมองดูข้างหน้า มองตามหลังเหมือนเป็นการให้เกียรติ ถ้าไปจ้องมองข้างหน้า อาจจะดูไม่สุภาพ
เราคิดไปเอง
ด้วยความอยากรู้ว่าเธอทั้งสี่จะเดินไปไหน ในเช้าวันนี้ จึงตัดสินใจเปลี่ยนแผนการณ์ที่ตั้งใจไว้ ว่าจะไปพิพิธภัณฑ์ศิลปะ เปลี่ยนเป็นเดินตามหลังผู้หญิงพื้นเมืองผ่านซอยเล็กๆ ที่ขนาบด้วยกำแพงหิน มีร้านขายอาหารเช้าประปราย ดึงดูดคนพื้นเมืองให้หย่อนก้น ส่งอาหารให้ลงเต็มพุง ก่อนที่จะเริ่มเช้วทำงานวันใหม่ คนที่เปรูไม่ค่อยนิยมกินอาหารเช้า หาเหตุผลอธิบายอยาก เลยไม่รู้ว่าอาหารเช้าที่นี่มีอะไรบ้าง ชะโงกหน้าไปดูเห็นแซนวิชต์ แบบที่อเมริกา อาหารเที่ยงกินแบบพระราชา บุฟเฟต์เต็มเมือง จากนั้นได้เวลางีบให้อาหารย่อย ตื่นมารอมื้อเย็นที่กินตอนเกือบดึก อะไรกันนี่ สนุกจัง ทุกอย่างกลับหน้ากลับหลัง
ใจลอยคิดถึงอาหาร เกือบเดินไม่ทันผู้หญิงพื้นเมือง เธอเดินรวดเร็วมาก เราแอบเก็บภาพเป็นระยะ ชอบมองจากข้างหลัง ทำให้คิดเห็นมุมแปลกๆ
สิบนาทีผ่านไป แอบจับเวลา สังเกตเส้นทาง ดูป้ายถนน อดสงสัย เอ้ ทำไมเหมือนกับว่าผู้หญิงทั้งสี่กำลังจะเดินไปพิพิธภัณฑ์ศิลปะที่เราวางแผนว่าจะไป
เลี้ยวสุดท้าย ใช่เลย ทุกคนเดินมุ่งหน้าไปที่เดียวกับเรา ดีใจออกนอกหน้า
ได้เดินตามหลังผู้หญิงพื้นเมืองไปพิพิธภัณฑ์ อีกชั่วโมงถัดมา เห็นผู้หญิงกลุ่มเดียวกันนี้ออกมาสาธิตการทอผ้าแบบพื้นเมือง
เราได้ดูทั้งข้างหน้า และ ข้างหลัง จับตา จับใจ

Thursday, September 3, 2009

ได้เพื่อน

เดินทางกับเพื่อน ได้เรียนรู้อารมณ์ ความสุข ความสัมพันธ์ เห็นใจกันและกัน
อาทิตย์ก่อน เพื่อนส่งภาพถ่ายจากการเดินทางร่วมกัน-สิบวันที่เปรู- เห็นแล้วอดร้อง อู้หู หัวใจพอง
ภาพสวยๆ เพราะเพื่อนมีใจให้กับกล้องตัวใหม่ คู่มือ คู่ตา
ภาพถ่าย หลายฉาก หลายตอน สร้างเรื่องราว สะท้อนความรู้สึกแห่ง-การแบ่งปัน แบ่งประสบการณ์ แบ่งที่นั่งให้ความคิดของแต่ละคนเติบโต แตกใบ
เดินทางกับเพื่อนได้อ่านใจกัน ได้แบ่งพื้นที่ให้ความประนีประนอมเป็นพื้นฐานในการตัดสินใจ
เดินทางกับเพื่อนได้แลกเปลี่ยนความอบอุ่น ความตื่นเต้น ตื่นตา ตื่นใจ
เดินทางกับเพื่อนไม่เบื่อ คนนึงอยากพูด อีกคนอยากฟัง สลับ จับจังหวะกันได้ดี
เดินทางกับเพื่อน-เห็นความสัมพันธ์เคลื่อนตัว งอกงาม ช้าๆ นิ่ง สบาย
ขอบคุณเพื่อนที่น่ารัก-เติ้ลกับเอ-ที่ร่วมเดินทางไปด้วยกัน

About Me

My photo
almost reaching her 40 and she is very happy to be able to wake up everyday, learn and live a good life.