Tuesday, December 1, 2009

คลุกฝัน


คลุกเคล้าเงาฝัน--ในชีวิตมีจังหวะสารพัน หนึ่งในนั้นคือการพิชิตฝัน--ทีละก้าว ทีละฝัน
ฝันนั้นคือขบวนการ--ก้าวเดินผ่านเส้นทางในชีวิต การเดินทางเป็นโอกาสสร้างสัมพันธ์ สร้างศรัทธา การเดินทางเป็นแบบฝึกหัดให้รู้จักเผชิญหน้ากับความเปลี่ยนแปลง พบมา ลาจาก เพื่อให้ยินดีกับคุณค่าของการมีอยู่ และ จากไป เดินทางผ่านร้อนผ่านหนาว ผ่านผู้คนหลากหน้าตา
ได้เรียนรู้แบบฝึกหัดสดๆ ตรงๆในชีวิต ขอบคุณฤดูกาล ขอบคุณความเบิกบานในใจ
ความหนาวเร้าเร่งให้ขอบคุณ และ คิดถึงด้านตรงข้ามของชีวิต อยู่เมืองหนาวๆคิดถึงไออุ่นของแสงแดด เนื้อกายหยาบแห้ง ถ้าได้แสงแดดหอมๆ ยามเช้า แตะนิดแตะหน่อย ผิวน่าจะผ่องขึ้น ถ้าได้แสงแดดซักหน่อย ได้เห็นแสงทอทอดเป็นทอง ส่งประกายตรงลึกลงไปยังหัวใจ --ได้หวังว่าชีวิตจะสมดุลขึ้น
ความร้อนเรียกหาความเย็น ถ้าอยู่ที่ร้อนๆ ชื้นๆ นานๆ ระอุระอึง อัดอัดใจ ความเย็นผ่านมาซักหน่อยจะช่วยไล่ความอืดปนหนืดในชีวิต ร่มไม้ชายคาผ่อนกิ่งก้าน ใหญ่พอที่เราจะวิ่งเอาตัวไปเข้าร่ม หวังให้ตัวเย็น ให้ใจเย็นขึ้นอีกนิด --ได้หวังว่าชีวิตจะสมดุลขึ้น

คลุกหนาวเคล้าร้อน ชีวิตเรียกร้องขานรับให้เดินทางต่อไป ให้สนุกกับการสร้างสรร กับวินัย กับความรับผิดชอบ กับการรวมตัว รวมหน้าตาของหลากหลายฤดูกาล ให้ชีวิตกระทบชีวิต เปิด ดึง หัวใจให้เห็นความมี ได้ ใคร่รู้ ให้ขบวนการเดินทางไปคลุกเคล้าเงาฝัน เป็นส่วนหนึ่งของการเติบโต ของการเปลี่ยนแปลง

Thursday, November 26, 2009

สาวอีสาน


เมื่อวันก่อนได้อ่านบทความ online จากหนังสือพิมพ์ภาษาไทย เป็นเรื่องสัพเพเหระ เกี่ยวกับชีวิตคนเมืองหลวง-- กรุงเทพ เมืองที่เราเกิดและเติบโต รู้จักเกือบทุกซอกทุกมุม รู้ใจคนเมือง----อ่านบทความเรื่องความสลับซับซ้อนของกรุงเทพ ของชีวิตในเมืองหลวง ยิ่งทำให้คิดถึงภาพชีวิตในอดีต สมัยเป็นนักศึกษา นั่งเหม่อมองสายน้ำเจ้าพระยา บางคราแอบหนีจากวิชาที่ไม่ชอบไปนั่งเรียนรู้จักโลกที่ระเบียงวัดพระแก้ว ไปแอบฟังฝรั่งพูดภาษาอังกฤษ เกือบสามสิมปีที่เมืองนั้น ความซับซ้อนที่ซ่อนอยู่ในความงดงาม เคลื่อนไหว อิ่มตัว อิ่มใจ ทำให้เรารักเมืองหลวงได้ไม่ยาก
ชีวิตเติบโต ผ่านไปตามวัย การทำงาน ตามประสบการณ์ชีวิต ชีวิตโสดกระโดดเป็นชีวิตคู่ คู่กับคนต่างภาษาต่างวัฒนธรรม จากกรุงเทพ เดินทางผ่าน--พัก--- ไปทำงาน ตะลุยไปหลายจังหวัด ทั่วทุกภาคของประเทศไทย ไปถึงประเทศลาวเพื่อนบ้านใกล้เคียง งานสุดท้ายได้สอนหนังสืออยู่ที่มหาวิทยาลัยที่จังหวัดเชียงราย ทางภาคเหนือของไทย จากนั้นเข็มชีวิตเปลี่ยนให้ไปอยู่ North America เกือบห้าปี

เดินทางผ่านหนาว ผ่านลม ห่มฝน เห็นแดดเดินมาใจเริงร่าเปลี่ยนไปเป็นคนละคน พอแดดผ่านใจเริ่มคืนสู่ภาวะแห่งความจริง--คิดถึงแม่---อยากกลับบ้าน

ถึงครานี้ลมหนาวหนุนผ่านให้กลับบ้าน กลับเมืองไทย ไปอยู่ใกล้ๆแม่ผู้ซึ่งมีบ้านเกิดอยู่อีสาน จังหวัดกาฬสินธุ์ คราวนี้ลมพัดแรง ตัดสินใจถอนราก เก็บของลงกล่อง จากดีซีกลับอีสาน

โอ้ ตื่นเต้น ตื่นใจ

คราวหน้าจะได้อ่านบทความใหม่ๆจากมุมมองของสาวอีสาน---คงไม่นานเกินใจรอ

Monday, November 23, 2009

กล่าวคำ ล่ำลา

ล่ำลา จากพา คือส่วนหนึ่งของการพานพบ
ผูกมิตร เริ่มสร้างสัมพันธ์ ต่อสายใย สายสวยๆ นั้นให้งดงาม งอกเงย
คืนวัน ผันนำเหตุการณ์ ดี ทุกข์ สุข ต่อประสาน
ชีวิตเปลี่ยนแปรไปทุกโมงยาม มิตรภาพเดินตามประสบการณ์
ล่ำลา คือ จังหวะ คือ ชีพจร ที่หมุนต่อ ตามผลัดใบ ในการเดินทาง

Sunday, November 15, 2009

พาไปดูโลก

พาไปดูโลก สังเกตทุกความเคลื่อนไหว กาย ใจ จิตวิญญาณ
เปิดประตู แตะหัวใจ เดินทางออกไปพร้อมความเปลี่ยนแปลง
เดินพาไปดูโลก ให้เห็นทั้งโชค ทั้งโศก เห็นโลกหมุนตามกระแส
เห็นใจปรวนแปร ใจที่ไม่เที่ยงแท้ อาจกลายหายห่าง ไม่เห็นโลกเต็มใบ
ความคิดใหม่ๆ ดึงหัวใจไปดูโลก อีกใบ โลกที่ว่า อาจไม่ใช่โลกที่เคยคุ้น
แต่โลกใบใหม่จะช่วยกระตุ้นความคิดให้แตกใบ
พาไปดูโลก ชะโงกหน้าออกไปไกลๆตัว มองเห็นให้ไกลทั่ว
ให้โลกรอบตัว นำหัวใจให้เบ่งบาน

Friday, November 13, 2009

ย้ายราก ย้ายใจ

นั่งมองกล่องกระดาษ เกลื่อนกลาดเต็มห้อง แต่ละกล่องเก็บหนังสือหลายภาษา สมุดบันทึกการเดินทาง สมุดจดงาน อีเมล์จากหัวหน้า และ เพื่อนร่วมงาน การ์ดวันเกิด ภาพถ่ายบุคคล สถานที่ ธรรมชาติ รวมไปถึง บัตรดูหนัง ดูกีฬา โบรชัวร์จากพิพิธภัณฑ์หลายๆแห่ง เมนูร้านอาหารสารพัน นิตยสารตกแต่งบ้านและการทำอาหาร ใบเสร็จจากร้านของชำ กระดาษแต่ละแผ่นแฝงเรื่องราวธรรมดาๆในชีวิตประจำวัน รวมไปถึงความฝันที่แอบคำนึงถึง

นี่คือส่วนหนึ่งของขบวนการย้ายราก เก็บข้าวของทั้งหมด ที่เก็บได้ ใส่ลัง ผนึกตรา ส่งกลับบ้านเกิด เมื่อสี่ห้าปีก่อนก็ทำแบบนี้ ย้ายจากเชียงรายมาอเมริกา วันนี้ย้ายจากวอชิงตันดีซีกลับกาฬสินธุ์ ไปอยู่ใกล้ๆแม่

ไปปลูกร่าง สร้างรากใหม่ กลับไปหาอากาศ อาหารที่เคยคุ้นชิน ไปสร้างงาน สร้างใจ สร้างความฝัน

ไปทำความเข้าใจตัวเองและชีวิต อีกครั้งหนึ่ง



Tuesday, October 27, 2009

ให้เลือดเลี้ยง

ให้เลือด หล่อ เลี้ยง ประคอง ร่องรางในชีวิต
น้ำเย็นพัดผ่าน กายา เปลี่ยนปรับ ตามด้วยน้ำอุ่น
ร่างกาย และ หัวใจตระหนักถึงการสับรางชีวิต ตระหนักว่าขณะนี้คือภาวะแห่งการเรียนรู้
บางวันเดินออกไปดูโลก หัวใจห่อเหี่ยว บางวันชีวิตเป็นเช่นนั้นเอง
บางวันรู้สึกขอบคุณ ชีวิต ยิ่งกว่าสิ่งมหัศจรรย์ใดๆในโลก เพราะการมีลมหายใจผสมความหวัง
คือพลังอันยิ่งใหญ่ คือความมหัศจรรย์
บางวัน พลังหนืด แผ่แผงยาวเหยียด ต้องรีบสะบัดทิ้ง
บางวัน ชีวิตเต็มไปด้วยความธรรมดา สามัญ เพียงให้เลือด หล่อ เลี้ยง กาย และ ใจ
ก็รู้สึกขอบคุณเกินถ้อยคำบรรยาย

Sunday, October 25, 2009

ใจหาย


ใจหาย--
ต้องรีบหายใจเข้า ออก อย่างสงบๆ เพื่อรวบรวมความคิด ความสัมพันธ์ในช่วงสองเดือนสุดท้ายที่อเมริกา
วันนี้แดดดี รีบเดินลัดเลาะ รอบเมือง แอบถ่ายรูปธรมชาติ ผู้คน ถนน และ ตึกตรา เต็มสองข้างทาง
ในใจคิดว่า เดี๋ยวก็จะไม่ได้เห็นที่นี่อีก มือสั่งใจให้รีบเก็บภาพ บันทึกความรู้สึกในแผ่นฟิล์ม
รูปเรื่องเห็นเมืองเล่าความเป็นไปในชีวิต ที่นี่คือที่อยู่ พัก หลับ กิน ทำงาน
เมืองนี้คือที่พักอาศัย หายใจ ที่วางจิตวิญญาณ ทุกที่สวยงาม ทุกที่เป็นบ้านพักชั่วคราว
วางใจไว้ตรงกลาง ผายมือขึ้นสู่ฟากฟ้า ขอบคุณชีวิตที่ดี
สองเท้าเดินสนุกๆ วันนี้เมืองสวย เห็นแล้วช่วยปัดละมุนความรู้สึกขุ่นเคืองที่เคยมี
คิดดีๆว่า เราทุกคนต้องมีชีวิตอยู่เพื่อต่อเติมความดี
แม้รู้ว่าการจากลาคือส่วนหนึ่งของการเดินทาง กระนั้นก็อด-ใจหายมิได้


About Me

My photo
almost reaching her 40 and she is very happy to be able to wake up everyday, learn and live a good life.