Tuesday, October 27, 2009

ให้เลือดเลี้ยง

ให้เลือด หล่อ เลี้ยง ประคอง ร่องรางในชีวิต
น้ำเย็นพัดผ่าน กายา เปลี่ยนปรับ ตามด้วยน้ำอุ่น
ร่างกาย และ หัวใจตระหนักถึงการสับรางชีวิต ตระหนักว่าขณะนี้คือภาวะแห่งการเรียนรู้
บางวันเดินออกไปดูโลก หัวใจห่อเหี่ยว บางวันชีวิตเป็นเช่นนั้นเอง
บางวันรู้สึกขอบคุณ ชีวิต ยิ่งกว่าสิ่งมหัศจรรย์ใดๆในโลก เพราะการมีลมหายใจผสมความหวัง
คือพลังอันยิ่งใหญ่ คือความมหัศจรรย์
บางวัน พลังหนืด แผ่แผงยาวเหยียด ต้องรีบสะบัดทิ้ง
บางวัน ชีวิตเต็มไปด้วยความธรรมดา สามัญ เพียงให้เลือด หล่อ เลี้ยง กาย และ ใจ
ก็รู้สึกขอบคุณเกินถ้อยคำบรรยาย

Sunday, October 25, 2009

ใจหาย


ใจหาย--
ต้องรีบหายใจเข้า ออก อย่างสงบๆ เพื่อรวบรวมความคิด ความสัมพันธ์ในช่วงสองเดือนสุดท้ายที่อเมริกา
วันนี้แดดดี รีบเดินลัดเลาะ รอบเมือง แอบถ่ายรูปธรมชาติ ผู้คน ถนน และ ตึกตรา เต็มสองข้างทาง
ในใจคิดว่า เดี๋ยวก็จะไม่ได้เห็นที่นี่อีก มือสั่งใจให้รีบเก็บภาพ บันทึกความรู้สึกในแผ่นฟิล์ม
รูปเรื่องเห็นเมืองเล่าความเป็นไปในชีวิต ที่นี่คือที่อยู่ พัก หลับ กิน ทำงาน
เมืองนี้คือที่พักอาศัย หายใจ ที่วางจิตวิญญาณ ทุกที่สวยงาม ทุกที่เป็นบ้านพักชั่วคราว
วางใจไว้ตรงกลาง ผายมือขึ้นสู่ฟากฟ้า ขอบคุณชีวิตที่ดี
สองเท้าเดินสนุกๆ วันนี้เมืองสวย เห็นแล้วช่วยปัดละมุนความรู้สึกขุ่นเคืองที่เคยมี
คิดดีๆว่า เราทุกคนต้องมีชีวิตอยู่เพื่อต่อเติมความดี
แม้รู้ว่าการจากลาคือส่วนหนึ่งของการเดินทาง กระนั้นก็อด-ใจหายมิได้


ความทรงจำ-ในใจ

ความทรงจำเป็นกรุสมบัติอันนวลนุ่มในชีวิต--ในการเรียนรู้
เรื่องราวใหญ่ๆเล็กๆ สนุก สุข ทุกข์ เศร้าหมองหม่น ล้วนเป็นอารมณ์ ที่แปรเป็นความทรงจำ
มิตรภาพใหม่ๆ การพบปะสังสรรค์ระหว่างคนต่างวัฒนธรรม เปิดตาดูโลกสองข้างทางอย่างพินิจพิเคราะห์
การได้ยิน ได้ฟังเรื่องราวจากคนต่างถิ่น การต่อสู้-ในชีวิตประจำวัน แรงบันดาลใจในการใช้ชีวิต ศิลปะในการอยู่กับธรรมชาติ การเปิดรับความเปลี่ยนแปลงของฤดูกาล ความตื่นเต้นที่ก่อตัวจากความไม่คาดฝัน
การพยายามสร้างทางเดินใหม่ๆในชีวิต และอีกหลากล้านความทรงจำ
ทั้งหมดจะครองใจไปอีกนาน เรื่องทั้งหมดคือสาระของชีวิตต่างถิ่น ในวันธรรมดา




Friday, October 23, 2009

รอยต่อ

รอยต่อ ระหว่างปัจจุบันกับอนาคตมีเส้นใย มีสายใจของความตื่นตัว ตื่นเต้นในใจ
ความสด-ใหม่ของอนาคตที่ไม่อาจคาดเดาได้ เป็นฐานรองรับน้ำหนักใจปัจจุบัน- ให้สงบนิ่ง
รอยต่อเชื้อเชิญวิญญาณแห่งการสร้างสรรให้ออกมาสู่เวทีแห่งชีวิต เวทีแห่งความคิดในการใช้ชีวิตอีกครั้ง
รอยต่อที่เชื่อมระหว่างความต่าง-และความเหมือน-ทางวัฒนธรรม วาดภาพชีวิตให้งดงาม
ระหว่างรอยต่อในการเดินทางไปสู่ก้าวต่อไปในชีวิต บางทีสิ่งที่เราตามหาอาจไม่ใช่จุดหมายต่อไป
แต่เป็นการเรียนรู้ที่จะอยู่อย่างสนุกและสงบกับการเดินทางไปสู่จุดหมายนั้นต่างหากที่ทำให้รอยต่อมีเสน่ห์
ปราศจากร่องรอย ระหว่างทาง เราอาจไม่ล่วงรู้ถึงความสำคัญของการเดินทาง-ในชีวิต


Thursday, October 22, 2009

ภาพสงบๆ

เห็นธรรมชาติกว้างใหญ่ ไกลสุดลูกหูลูกตา
เห็นใจสงบๆเดินตามมา
ต้นไม้ใหญ่ มีใบผลัดผลิเปลี่ยนสี เปลี่ยนปี
เห็นความงามของชีวิต เงียบๆ
ภาพสงบๆเติมน้ำ เติมพลังใจให้ชีวิต หมุนต่อ
สวยซึ้งคือของขวัญ รางวัลในชีวิตเรียบง่ายคือ การมองออกไป ไกลๆ ให้เห็นภาพสงบ

Tuesday, October 20, 2009

คุณค่าแห่งประสบการณ์

ปริบปลายในปีกแห่งประสบการณ์ชีวิต กระพริบ วิบวับ เห็นชีวิตที่ดี เห็นหัวใจงดงาม
เห็นคุณค่าของชีวิต-ลึกขึ้น เมื่อหยุด มอง ฟัง นิ่งคิด อีกครั้ง ถึงอารมณ์ในวันคืน
ถึงความหมายของการตีความในแต่ละบท แต่ละตอน วันชื่น คืนศุกร์เศร้า
ชีวิตเปี่ยมคุณค่า เปี่ยมประสบการณ์ เปี่ยมลมหายใจ และความฝัน
ชีวิตที่แตกต่าง เร่งปัญญาให้แก่กล้า ให้คิด ให้เข้าใจ
คุณค่าจับวัด จัดราคาหามิได้ เพราะการตีความ และ โอกาสในการเรียนรู้จากประสบการณ์คือของขวัญจากสวรรค์ คุณค่าไม่อาจหาได้จากเงินตรา มีมาก มีน้อย หาใช่มาตราวัด -ความสุข หรือ ความสำเร็จ
งานการแห่งความหมาย ความสัมพันธ์ เคารพ ผูกพัน ไมตรีที่ยื่นหยิบให้กันและกันคือคุณค่า
จับจิต จับความคิดให้นิ่งๆ คุณค่าของประสบการณ์ในชีวิตหาได้จากความสัมพันธ์
กับทุกสิ่งรอบๆตัวที่รายล้อมรอบๆหัวใจ

Monday, October 19, 2009

ลมหนาวนี้สีอะไร

ลมหนาว โปรยผ่าน หนาวนานพัดมา แตะผิว อดสงสัยไม่ได้ว่า ลมหนาวนี้เจือสีอะไร
เรารับรู้-รูปร่างของลมผ่านทางซอกนิ้วมือ ปลายติ่งหู ปะทะสองแก้ม
ลมเบาๆ --แผ่วผ่านมาเป็นกลุ่มเป็นกองทัพ
ร่างกายผันสัมพันธ์-สัมผัสลมหนาวๆ อารมณ์เปลี่ยน แปรตามอุณหภูมิของความคิด และ ของโลก
อารมณ์ภายนอกปะทะกับการปรับตัวในใจ
หวนคิดไม่ได้ว่า นอกจากรูปร่างของลมที่ไม่อาจสัมผัสด้วยตาแต่ซึมซับรับรู้ผ่านผิวกาย ผิวใจแล้ว
ลมเจือสีอะไร ไฉนจึงพัดมาพร้อมกับความเปลี่ยนแปลงเกือบทุกครา หรือลมหนาวไม่มีสี --
แต่ใจเราเฝ้าสังเกต จับความเปลี่ยนแปลง-ในชีวิต จึงตีอกชกตัว โยนความผิด ให้ลม ฝน ฟ้า อากาศ
สีสรรของใจเราแปรตามกระแสลมหรืออย่างไร

Sunday, October 18, 2009

You Are What You Eat, Really?

นั่งนับสัญชาติและเชื้อชาติอาหารที่บรรจงตักเข้าปาก เข้าท้อง ตั้งแต่มาอยู่ที่อเมริกา
นับได้ดังนี้---
อาหารไทย ลาว จีน (บ่อยที่สุด) พม่า เวียดนาม เนปาล อินเดีย ปากีสถาน เอธิโอเปีย อิตาเลียน
เยอรมัน ฝรั่งเศส เมซิกัน เปรู กรีก ญี่ปุ่น อาฟกานิ และอื่นๆอีกหลายหลาก
นับได้ไม่ต่ำกว่าสิบชาติ "ถ้าตัวเราเป็นเหมือนที่เรากิน"
นั่นจะหมายความว่าเราเป็นประชากรของโลก หรือเป็นอะไรกันแน่ เพราะกินหลากหลายเหลือเกิน
ถ้าสิ่งที่กิน-แปรเปลี่ยนเป็นสารอาหารแห่งความคิด และ ความเข้าใจระหว่างชนชาติเราน่าจะจัดเทศกาลอาหารนานาชาติ-เชิญทุกๆท่านมาร่วมสังสรร ล้อมวง
ฟัง กิน พูด คิด เขียน เคี้ยว กลืน แบบนานาชาติ เรียนรู้ รับ เลือกสิ่งที่น่าประทับใจของกันและกันมาเป็นคุณค่า มาเป็นของขวัญ ให้เพื่อนร่วมโลก
วันดีคืนดีไม่รู้จะกินอะไร ตัดสินใจง่ายๆ กินข้าวกับไข่เจียวฟูฟ่อง กลมกรอบ อร่อยจนลืมอิ่ม
อ้อ--เกือบลืมนับอาหารเจ และ อาหารโคเชอร์ (kosher!!!!)

You Are What You Eat, Really?

ได้ยินเสียงหัวใจ-หายใจ

หัวใจกลืนความฝัน ปั่น ปลุก ปั้น
คืนนี้เห็นร่างเงาของเสียงเรียกจากภายใน
เห็นจังหวะของลมหายใจเข้าๆ ออกๆ ผ่านปลายความคิด ผ่านชีวิต ผ่านไปตามลำธาร
เรามีหน้าที่ มนุษย์ทุกผู้คนมีหน้าที่ -มีความหวัง และ ความฝัน
เราอดถามใจลึกๆว่า อยากเดินพยุงหน้าที่ ภาระ ความฝัน และ การเผชิญโชค ให้เป็นไปตามฤดูกาลอย่างไร
สายตามองผ่านหมู่ไม้กลุ่มใหญ่ สูงตระหง่าน สานความคิด
ลมหนาวปลิวผ่านร่องคอ ถ้าไม่มีผ้าฝ้ายผืนหนาๆ อุ่นอบ ปกปิดร่องคอ คงต้องกึ่งเดิน กึ่งวิ่ง เพื่อให้ถึงบ้านเร็วขึ้น ไม่อยากให้ความหนาวทำลายความฝัน
ปีนี้ เข้าหนาวปีที่ห้า ห้วใจเข้มแข็ง เติบโต สุข อุ่น ตามประสบการณ์ชีวิต และ การยอมรับความเปลี่ยนแปลง ยินดีค้อมคำนับให้กับการหมุนเวียนของฤดูกาล และ ความคิด
กระนั้น ความฝันกลับยิ่งเต็มกล้า เพราะถ้าหลายฤดูผ่าน หากแต่ฝันยังไม่บรรลุ มนุษย์ยิ่งต้องหาญกล้า ทำงานหนักขึ้น ถามตัว และ หัวใจ นิ่งเงียบๆ ฟังเสียง-ลมหายใจ ฟังเสียงเรียกร้องภายใน
ฟังเสียงชีวิต



คำถาม

What is next? คือคำถามที่ผุดขึ้นมาในหัวใจเงียบๆ
สำหรับคำถามบางคำถาม เราไม่ต้องการคำตอบ-ในทันที
ความสงสัยที่จ่อจมอยู่ปลาบปลายก้นบึ้งแห่งความคิด สมอง และหัวใจ กระตุ้นให้ใคร่ถาม
หลายครา-คำตอบอาจไม่ใช่สิ่งที่ต้องการ ไม่ใช่คุณค่าฉับพลัน
คำถามต่างหากคือตัวเร่งเร้า ให้สงสัยในจังหวะชีวิต ให้แสวงหาความสัมพันธ์
ให้ฉงนกับการเดินทางไปสู่ทิศทางที่เราไม่อาจกำหนดได้เสมอไป
เหมือนมีคนเคยบอกว่า เราไม่อาจเปลี่ยนทิศทางลมได้-แต่เราคือผู้จับปรับใบพัดแห่งกังหันชีวิตให้ไปสู่ทิศทางที่มุ่งหมายได้ --
What is next? คือปฐมบทของชุดความคิด และการพยายามทำความเข้าใจในชีวิต-ขณะนี้
บางทีการหัดตั้งคำถามอาจทรงค่ายิ่งกว่าการรู้คำตอบทั้งหมด-

What is next?

Saturday, October 17, 2009

Liberty-หอมหวาน

Liberty มีกลิ่นหอมหวาน ทำให้เราอดแอบบรรจง จับชิ้นส่วนของความฝันมาแปรรูปเป็นความคิด
ระยะนี้ ครุ่น คำนึงถึง การเดินทางไปสู่อิสรภาพ-ทางความคิด
คลายใจช้าๆ สลัดกังวลทิ้งลงแผ่นดิน กรนกลัว รัวเรียงหน้าเข้ามา ไม่ต้องผวา
ผ่อนกายา ยิ้มให้กับโลกใบใหญ่ และ ใบจ้อยในหัวใจ- ความกลัวคือตัวเรา เงาของความคิด จับจิตผิดเอง
ไม่มีอะไรน่ากลัวเท่าความคิดของตัว
ไม่มีอะไรวิเศษ สวยงามเท่าความคิดของตัว
ไม่มีอะไรฝ่าล้อมความมั่นใจได้เท่าความคิดของตัว
ไม่มีอะไร ใส บริสุทธิ์ อ่อนน้อม ถ่อมตัวเท่า-ใจ-ของเรา
Liberty อาจเป็นเหมือนตัวแทนของเด็กน้อยในร่างผู้ใหญ่
ชอบออก ซอกแซก เดินทาง ตามหาหนทางใหม่ๆ ที่ทำให้ใจลิงโลด
Liberty ดึงใจให้คงที่ อิสรภาพทางความคิดคือสมบัติอันละเมียดที่จับต้องได้
ยิ่งคิด ยิ่งมีอิสรภาพ--หอมหวาน อยู่ที่ลมหายใจ และ การตีความ

Friday, October 16, 2009

The Journey

การเดินทาง-ในชีวิต ไม่ว่าจุดหมายจะอยู่ที่ไหน บางครั้งเรารู้สึกเหมือน-ยิ่งใกล้ ยิ่งไกล
ยิ่งไกลเพราะขบวนการ ระยะเวลาในการเดินทางต้องผ่านการดิ้นรน ทนร้อน ฝ่าหนาว หนักเอา เบาดี
เดินทางไป เจอเส้นทางตะปุ่ม ลุ่มๆดอนๆ ใจดวงน้อย แอบตั้งคำถามว่าเมื่อไหร่จะถึงจุดหมาย
เดินไปพักบ้าง สลับกันตามกำลังกายผสมกำลังอายุ จะรู้สึกไกลถ้าคำนึงถึงแต่หลักไมล์
ยิ่งใกล้เพราะเส้นทางที่ผ่านไป จากหนึ่งเป็นสอง สอนให้เห็นคุณค่าของการเดินทาง อารมณ์ผสมการเรียนรู้สะกิดหัวใจให้เต้นสนุกๆ สองรวมอีกหนึ่งเป็นสาม อีกไม่กี่โมงยาม จุดหมายที่มุ่งมั่นตั้งใจจะไป ใกล้เป็นความจริง การเดินทางในชีวิตมีหลากมิติทั้งใกล้และไกล ไม่ว่าเส้นทางที่เดินจะเป็นเช่นไร เปิดหัวใจให้ใคร่รู้ ใคร่คิด คำนึง ทำ ประสบการณ์ที่ได้เรียนรู้ผ่านแต่ละเส้นทาง คือ ความใกล้ในความไกล

Thursday, October 15, 2009

พลังของความเปลี่ยนแปลง

วันนี้หัวใจเผยยิ้ม ดวงตาเริงร่า ดวงใจอบอุ่น-เป็นพิเศษ ด้วยมวลแห่งความเปลี่ยนแปลงแอบกอด-รัดรอบตัว
พลังใจ พลังใหม่ในชีวิตสัมผัสได้อย่างผาสุขจากการตัดสินใจ-กลับบ้าน
เลือกความเปลี่ยนแปลงเป็นจุดหมายต่อไปในชีวิต อีกสองสามเดือนจะกลับบ้านเกิด
ใจดี ดีใจ ตุบๆ หัวใจเต้นด้วยความปิติ การได้กลับบ้านที่จากไปนานเหมือนปลายเท้าได้กลับไปสัมผัสสะพาน-ไม้ เก่า ผุ กร่อน ร่อนฝุ่น แต่เต็มไปด้วยเรื่องราวที่เราเคยเดินผ่านมา นับครั้งไม่ถ้วน การเดินทางกลับบ้านเก่ามีเรื่องราว ความทรงจำเป็นเครื่องลาง-อันเร้าใจ ให้ได้สัมผัสอีกครั้ง ตัวเรา และ สะพาน ผ่านเรื่องหลากมากมาย ไม่เหมือนเดิม ปีผ่าน สังขารเพิ่ม สะพานผุพังกระนั้น การได้กลับบ้านนำปิติมาสู่ใจอย่างประหลาด งดงาม เกินคำบรรยาย
แต่กว่าจะถึงบ้าน ยังต้องผ่านการเดินทางอีกหลายก้าว แต่ละก้าวจะได้พลังสดใสใหม่คืนมา
น่าแปลกที่ชีวิต-ทั้งด้านนอก และ ด้านใน ผลิใส แตกใบ ได้จากความคิดง่ายๆ ความคิดที่จะเปลี่ยน

Freedom is the Breath of Life

คำพูดของท่าน คานธี ติดหัวใจ Freedom is the Breath of Life
พินิจผ่านปลายลมสะอาด ลมหายใจเลี้ยง หล่อหลอมชีวิต
ลมหายใจใสงามนำความคิดเชิงบวกมาใส่กระเป๋าความคิด
ความคิดถูกกระตุ้นจากลมหายใจ เอาแรงบัลดาลชีวิตไปรวมกับอ็อกซิเจน
สูดเอาแรงบันดาลฝัน แรงจูงใจจับชีวิตให้ละเมียด
ลมหายใจคืออิสระแห่งวิญญาณ-ความฝัน และ ชีวิต
การเดินทางในชีวิตมีความอิสระของลมหายใจนำหน้า
หากใครใครได้ก้าวเดินตามทางที่ผู้อื่นขีดไว้ให้ -เนิ่นนาน
อาจถึงเวลาที่ผู้นั้นจะเริ่มเลือกมีอิสระภาพแห่งชีวิต
เลือกหายใจ ตามจังหวะของการชี้นำจากข้างใน-จากจิตวิญญาณ
ทุกลมหายใจเข้าออก เป็นโอกาสของการเบ่งบานของดอกไม้
ทุกลมหายใจเข้าออกสลักปลาย เปิดเปลือกใหม่ให้ชีวิตด้านในเติบโต
ให้อิสระภาพเป็นหลักชัยของชีวิต
ให้ลมหายใจเป็นประตูไปสู่การเดินทางแห่งอิสระภาพ

About Me

My photo
almost reaching her 40 and she is very happy to be able to wake up everyday, learn and live a good life.