ความพลัดถิ่นสร้างสะเทือนเฉือนอารมณ์
พลัดถิ่นพาพรากจากฐาน ดวงตะวันฉายฉาน เห็นสี ฟังเสียงแห่งความพลัดถิ่น
เสียงครวญหวนไห้ในวันหนาว หรือ เสียงบ่นยาวๆ เล่าเรื่องความไม่จีรังของชีวิต
เสียงพึมพำตรำตราก แห่งวัฒนธรรมวิบาก เสียงเงียบๆของความสับสน ปนอยุ่ในสุ้มในเสียง
เสียงความสันโดษ-โลดโผนโจนทยาน ปลิวปล่อย ลอยผ่าน ถิ่นพักพึงใจ
สรรพเสียงแห่งความพลัดถิ่น เปล่งสำเหนียกเรียกถิ่นที่พลัดพราก
เห็นสีน้ำตาลไหม้ เห็นหัวใจวันหมองมัว
เห็นเทาไม่เท่าขาว เห็นดาวไม่ทั่วฟ้า เห็นเพลาพาผ่าน นานเกินใจไหวรอ
เห็นดำ ขลำขลัง เห็นพลัง รวมความหวัง
เห็นแดงแดด แสงจ้า พลันนภากระจ่างหาย
เห็นแดงแฝงมายา เห็นพื้นพสุธาเปื้อนน้ำตาจากคนรอบกาย
สีสรรแห่งความพลัดถิ่น รวมนานา สรรพสี รวมชีวี รวมวิญญาณของคนพลัดถิ่น
เกี่ยวร้อยเกาะกัน สีสรร สรรพเสียง
หมู่บ้าน เมืองใหญ่ ลำธาร สายน้ำ ขุนเขา เห็นเงาแห่งแผ่นดิน
ฐานพราก ถิ่นพลัดจากมา เป็นมนตราแห่งชีวิต เป็นลิขิตแห่งวิญญาณ
No comments:
Post a Comment