การใช้ชีวิตในดินแดนที่แตกต่างอย่างสุดโต่ง ระหว่างประเทศไทย กับ ประเทศอเมริกา
เหมือนการพยายามทรงตัวไต่ไปบนเส้นลวด ลมหนาวลอดผ่านวงแผนซ้าย ขวาที่แกว่งไป แกว่งมา
ลำตัว หนา สูง ใหญ่โอนซ้าย เอียงขวา จะล้มมิล้มแหล่
ลมแรงๆมาปะทะเมื่อใด ใจหล่นตุ๊บ แตะผิวดิน กลับทรงตัวได้อีกครั้ง ความภูมิใจลึกๆตื่นขึ้นทันท่วงที
ภาพอันฉาบฉวยที่ว่า อยู่อเมริกาสบาย (สบายกว่าเมืองไทย ไม่คัดค้าน แต่ก็ไม่เห็นด้วย) อยากให้เริ่มทบทวนใหม่ช้าๆ
การใช้ชีวิตในต่างแดนคือการสละความสะดวก สบายอันคุ้นเคย เริ่มหัดเดินเตาะแตะอีกครั้ง เดินไปล้มไป ในต่างแดน
ยิ่งเดินยิ่งล้ม เพราะเดินต้านลม
ความสบายอันฉาบฉวยที่ลอบมองผ่านเลนส์ที่สะท้อนในบทภาพยนตร์ ความยาวไม่เกิน สองชั่วโมง คือภาพความสุขระยะสั้น
คือภาพลวงตา
วันไหนที่ความทุกข์ใจเดินนำชีวิต สองชั่งโมงนานคล้ายสองปี ทุกวินาทีใจเต้นไม่เป็นจังหวะ
ชีวิตจริงมีรายละเอียด มีล้านคำถาม มีหลายคำตอบ มีการดิ้นรน มากกว่าที่ใครจะนำมาถ่ายทอดได้ทั่วถ้วน
มีกำลังใจเป็นยาชูกำลัง
การปะทะลมแต่ละครั้งกระตุก กระดูกหลายๆชิ้นในกายให้สั่นคลอน ง่อนแง่น
กระตุ้นใจให้ระลึกคิดหาคำตอบหาความหมายของชีวิต
เดินปะทะลมแรง บ่อยๆ คำตอบที่ถามหา หมุนทวนมาตามลม
การใช้ชีวิตในต่างแดน ไม่ง่าย แต่แฝงความหมาย และมีหลายบทเรียนให้รู้ ให้คิด ให้ตั้งคำถาม ให้หาคำตอบ
บางครั้งอาจไม่สนุก (อย่างที่คิด) แต่ ประสบการณ์ช่วยเพิ่มพลัง กระตุ้นให้ตั้งคำถามในการดำรงชีวิตที่ดูเหมือนจะราบเรียบให้โลดโผน บ่อยครั้งที่ตื่นขึ้นมาพร้อมกับใบหน้าอันฉงน งงงวย หัวคิ้วชนกัน วันนี้จะมีเรื่องน่าตื่นเต้นอะไรให้เผชิญบ้าง
วันนี้จะทรงตัวอย่างไรดี หัวใจจะไปอยู่ที่ไหน
1 comment:
ขอบคุณค่ะ สำหรับบทความดี ๆ
Post a Comment